โพสต์27 มี.ค. 2560 00:29โดยไม่ทราบผู้ใช้
คลังแจงเฟดขึ้น ดอกเบี้ย 0.25% กระตุกจิตวิทยา ลงทุนช่วงสั้น เชื่อมั่น
ธปท.มีอาวุธครบมือดูแลตลาดเงินได้ดี แบงก์ชาติย้ำไทยไร้เสี่ยงกับดักภาวะเงินเฟ้อต่ำ
เอกชนเชื่อบาทแข็งไม่กระทบส่งออก
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัด
กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
0.25% มาสู่ระดับ 0.75-1.00% ว่า เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
และที่ผ่านมาเฟดได้มีการส่งสัญญาณชัด
เจนว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่วนในแง่ของการลงทุนของไทยนั้น
มองว่าอาจจะทำให้เกิดการกระตุกในช่วงสั้นเกี่ยวกับจิตวิทยาการลงทุนเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ยังมีเครื่องมือเพียงพอที่จะดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าออก
ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่รองรับปัญหาต่างๆ
ได้เป็นอย่างดี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นสิ่งที่รับรู้กันอยู่แล้ว
และแม้จะมีผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก
เพราะสภาพคล่องในระบบของไทยยังมีอยู่มาก
นายเมธี สุภาพงษ์
รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท.
กล่าวถึงข้อเสนอของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้ใช้นโยบายการเงินแบบ
ผ่อนปรนเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ว่า
ธปท.มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือน ธ.ค.2559 แล้ว
และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางของสาธารณชนยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่ากลางของกรอบเป้าหมาย
ดังนั้น
ธปท.จึงยังไม่เห็นความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะติดกับดักภาวะเงินเฟ้อต่ำ
นายวัลลภ
วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(ส.อ.ท.) กล่าวว่า
ค่าเงินบาทขณะนี้แข็งค่าขึ้น เฉลี่ยที่ 35.03 บาทต่อดอลลาร์
ถือว่าไม่อ่อนค่าตามที่คาดการณ์ ไว้ ดังนั้นคงต้องติดตามค่าเงินอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทดังกล่าวยังไม่มีนัยสำคัญที่จะกระทบต่อการส่งออกแต่อย่างใด |
|
ที่มา : นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 |
|
| |
|