![]() ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ยังคงคาดการณ์การส่งออกของไทยไปสหรัฐ ปี 2560 เติบโต 1.3-2.5% เท่าเดิม
ด้วยมูลค่าการส่งออก 24,680-24,980 ล้านบาท หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงนโยบายเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 ก.พ.
ที่ผ่านมา สะท้อนถึงท่าทีผ่อนคลายแรงกดดันการกีดกันทางการค้ากับต่างประเทศ
จากการประกาศสนับสนุนกรอบการค้าเสรี ทั้งนี้
มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจใช้การเก็บภาษี Border Adjustment Tax (BAT)
เป็นเครื่องมือในการกีดกันทางการค้า ในส่วนของสินค้านำเข้าจากจีน เม็กซิโก
รวมถึงประเทศที่สหรัฐฯเสียเปรียบทางเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมาเป็นมูลค่าการขาดดุลการค้าและมีผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
เรื่อยมา ซึ่งมาตรการดังกล่าวยังไม่มีผลต่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ
เพราะสหรัฐขาดดุลการค้ากับไทยอยู่ในลำดับที่ 11 และมีมูลค่าขาดดุลการค้าราว 1.8
หมื่นล้านบาท นอกจากนี้
สินค้าไทยจึงยังมีโอกาสได้อานิสงส์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคของสหรัฐ
ในระยะต่อไป โดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่สหรัฐ ไม่สามารถผลิตได้
และเป็นสินค้าที่สอดคล้องกับธุรกิจที่จะกลับขยายการลงทุนในสหรัฐ
ตามนโยบายกระตุ้นการลงทุนและการผลิตในประเทศ อาทิ คอมพิวเตอร์ ยานยนต์
เครื่องใช้ไฟฟ้า
รวมทั้งการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีเข้มข้น ขณะที่นโยบายการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลส่งผลโดยตรงต่อภาคการผลิตและการบริโภคในประเทศอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย สำหรับการส่งออกของไทยไปสหรัฐ
ล่าสุดในเดือน ม.ค. 2560 มีมูลค่า 1,931 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำในปีก่อน ทำให้ขยายตัวค่อนข้างดี ที่ 9.5%
จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ หากการส่งออกไปสหรัฐ ในเดือนต่อไป
สามารถรักษาระดับการเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
รวมทั้งผลการเร่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรากฏชัดเจนขึ้น
ก็มีโอกาสที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยอาจจะปรับเพิ่มประมาณการในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี
ในระยะต่อไปยังต้องติดตามพลวัตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
เมื่อบวกกับแนวทางการกีดกันทางการค้าที่มีต่อจีน เม็กซิโก
รวมถึงประเทศอื่นที่สหรัฐฯ เสียเปรียบทางเศรษฐกิจ
อาจสร้างแรงกดดันต่อห่วงโซ่การผลิตที่เชื่อมโยงกับธุรกิจของไทยปรับเปลี่ยนเป้าหมายตลาดตามนโยบายบริษัทแม่
โดยบางส่วนอาจส่งออกตรงไปยังสหรัฐ มากขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มการส่งออกไปยังฐานการผลิต
ในประเทศที่ 3 ที่อาจถูกลดบทบาทลง ตามความเข้มข้นของการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ที่มา : นสพ.โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560 |
บทความ >